Density: คำนี้มักใช้คู่กับเรื่อง Keyword ซึ่งหมายถึงความหนาแน่นของ Keyword ใน 1 หน้า หรือใน 1 บทความ เพื่อเพียงพอจะทำให้ Bot ของ Search Engine ตีความได้ว่า หน้านั้น ๆ หรือบทความนั้น ๆ เกี่ยวกับเรื่องใด 7. Link: ในเรื่อง SEO คำว่า Link จะหมายถึงการเชื่อมโยงกันระหว่าง บล็อก/เว็บไซต์ 8.
>> ให้พิมพ์ site: หรือ site:ชื่อบล็อก. ในช่องค้นหาใน Google ซึ่งถ้าพบแปลว่า Index แล้วครับ 10.
Offpage: หรือเรียกเต็ม ๆ ว่า Offpage SEO เป็นปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อ คะแนน PR และ อันดับในการ Index เช่น การสร้าง Backlink จำนวนคนเข้าเยี่ยมชม อายุของโดเมนเป็นต้น ที่มา: Mr. Hackublog
Link: ในเรื่อง SEO คำว่า Link จะหมายถึงการเชื่อมโยงกันระหว่าง บล็อก/เว็บไซต์ 8.
Submit: คำนี้พูดถึงไปบ้างแล้ว ถ้าแปลง่าย ๆ ก้เหมือนการไปแจ้งเกิด แจ้งจดทะเบียนสมรส อะไรทำนองนี้ครับ นั่นคือเรานำข้อมูลของเราไปส่งให้ แหล่งที่รับ Submit ข้อมูล เช่น Social Bookmark หรือเว็บ Pligg หรือ Web directory เป็นต้น การ Submit มีหลายประเภท เช่น Submit Blog, Submit บทความ, Submit Feed, Submit Sitemap เป็นต้น 21. Ping: เป็นการส่งสัญญาณการ Update ไปยัง Search Engine ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรทำเลย หรือถ้าจะทำก็ควรทำเมื่อบล็อกมีการ Update เพราะถ้าบ่อยไปจะถูกมองว่า Spam และถูก de-index ได้ 22. Social Bookmark: คือเว็บไซต์ที่เปิดให้สมาชิกเก็บเรื่องราวต่าง ๆ ที่ชอบ และแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ได้ทราบ ส่วนใหญ่เราจะใช้ในการนำบทความ ไป Submit เพราว่า Social Bookmark จะมีผู้ใช้บริการมาก มีข้อมูลความเคลื่อนไหวแทบจะตลอดเวลา Bot ของ Search Engine จึงเข้าไปเก็บข้อมูลแทบจะตลอดเวลาเช่นกัน เมื่อพบบทความที่เรานำไป Submit เอาไว้ Bot ก็จะวิ่งมาเก็บข้อมูลที่บล็อกเราอีกต่อหนึ่ง ตัวอย่างของ Social Bookmark ที่รู้จักกันได้แก่ digg, stumpble, delicious, Mixx เป็นต้น 23. Pligg: เป็นพวกเดียวกับ Social Bookmark แต่สร้างจาก CMS (เว็บกึ่งสำเร็จรูป) ดังนั้นก็ใช้งานเหมือนกับ Social Bookmark และในปัจจุบันในไทยก็มีเว็บ Pligg เป็นจำนวนมาก ผมทำการรวบรวมมาแนะนำกันอีกที 24.
Web Directory หรือ Blog Directory: ถ้าแปลกันตรง ๆ ก็คือสารบัญของเว็บไซต์/บล็อก ที่มีคนบางกลุ่มนิยมไปค้นหาเรื่องราวที่สนใจจากแหล่งสารบัญที่ว่านี้ ดังนั้นถ้าคุณทำเว็บ/บล็อก ก็ควรจะนำไป Submit ใน Web Directory หรือ Blog Directory เพื่อเพิ่มโอกาสให้ เว็บไซต์/บล็อก เป็นที่รู้จักมากขึ้น ตัวอย่างของ Web Directory หรือ Blog Directory ได้แก่ Dmoz, Blogcatalog เป็นต้น 25. Tag: คือคำสั้น ๆ ที่มีใจความ หรือเรียกว่าเป็น Keyword ก็ได้ ถ้าในการเขียนบทความ หรือ นำบทความไป Submit ก็ควรจะใส่ tag ให้กับบทความนั้นมาก ๆ และควรใส่ tag ที่คนนิยมใช้ในการค้นหาด้วย มันจะทำให้ Index ของคุณดีขึ้นได้ 26. Social Media และ Social Network: สังคมของคนออนไลน์ 2 ชนิดนี้สามารถใช้โปรโมทบล็อกของเราได้ เช่น Facebook, Twitter, Myspace หรือ Youtube เป็นต้น 27. Onpage: หรือเรียกเต็ม ๆ ว่า Onpage SEO คือการปรับแต่งเว็บไซต์หรือบล็อกให้ SE เข้าถึงข้อมูลในหน้าต่าง ๆ ได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด สามารถมองเห็นและเข้าใจได้ว่าบล็อกของคุณเกี่ยวกับเรื่องใด เด่นเรื่องใด และส่งผลต่อผลลัพธ์การค้นหาด้วย เช่น ชื่อโดเมน Title ของแต่ละหน้า ชื่อของบทความ ความหนาแน่นของ keyword ในเนื้อหาหรือบทความ Link เข้า-ออก ในแต่ละหน้า Meta tag หรือการไม่มี Link เสียในหน้านั้น ๆ เป็นต้น ถ้าให้ผมสรุปง่าย ๆ ก็คือทุกสิ่งอย่างที่ SE จะมองเห็นในเว็บ/บล็อกของเรา ซึ่งเป็นปัจจัยทีเราควบคุมได้ และควรใส่ใจปรับแต่งอย่างละเอียดอ่อน 28.
บทความนี้ผมขอทำความเข้าใจเรื่องคำศัพท์ SEO เสียก่อน เพราะในบทความถัดไปผมจะสรุป Roadmap การทำ SEO ของ Blogger สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นให้มีแนวทางการทำ และสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น และจะเป็นประโยชน์ในการทำ SEO ต่อไปอย่างมากหากคุณสามารถเข้าใจคำเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน คำแปลเหล่านี้อาจจะไม่ได้ถูกหลักวิชาการนะครับเพราะผมแปลเอาเองตามความเข้า ใจที่ได้สะสมมา ผิดพลาดยังไงต้องขออภัยล่วงหน้าครับ และหวังว่าคงพอเป็นแนวทางในการทำความเข้าใจเรื่อง SEO ให้กับคนที่เริ่มต้นได้ 1. SEO: คำนี้ย่อมาจาก Search Engine Optimization ซึ่งเป็นกระบวนการการทำให้บล็อก/เว็บไซต์ของคุณถูกค้นพบโดยเครื่องมือค้นหา บนโลก Internet ได้ง่ายขึ้น 2. SE: ย่อมาจาก Search Engine คือเครื่องมือค้นหาข้อมูลบนโลก Internet (ในที่นี้เราจะพูดถึงบล็อกและเว็บไซต์) 3. Bot: ย่อมาจาก Robot เป็นเหมือนผึ้งงานที่คอยมาเก็บข้อมูลต่าง ๆ บน โลก Internet ที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มปริมาณของข้อมูลขึ้น และที่สำคัญ Bot ของ Search Engine ชอบจะไปเยี่ยมบล็อก/เว็บไซต์ที่มีการ update บ่อย ๆ 4. Keyword: ในเรื่อง SEO หมายถึงคำสำคัญที่คนมักใช้ค้นหาจาก Search Engine เช่น คำว่า ผลฟุตบอล บอลโลก 2010 เป็นต้น 5.
ทำไมการทำเอสอีโอจึงสำคัญ? เสิร์ชเอ็นจิ้นอย่าง Google จำเป็นต่อความอยู่รอดของท่าน!