ดร.
ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย แม้จะเป็นเพียงธัญพืชเมล็ดเล็ก ๆ แต่งาดำก็อุดมไปด้วยไฟเบอร์จำนวนมาก ซึ่งถ้ารับประทานบ่อย ๆ ก็จะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น หมดปัญหาเรื่องท้องผูกไปได้เลยล่ะค่ะ ใครที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่ายลองหางาดำมารับประทานกันดูนะคะ 7. บรรเทากลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนถือเป็นปัญหาของคุณสาว ๆ หลายคน เพราะทำให้อารมณ์แปรปรวน หรือเกิดอาการปวดท้อง ปวดศีรษะ เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว นอนไม่หลับ จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต แต่ถ้าอยากจะลดอาการเหล่านี้แนะนำให้รับประทานงาดำค่ะ เพราะงาดำอุดมไปด้วยวิตามินบี แคลเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี ที่ช่วยลดอาการ PMS ได้เป็นอย่างดี บอกลาอาการต่าง ๆ ก่อนมีประจำเดือนไปได้เลย 8. แก้ผมร่วง บำรุงเส้นผม งาดำเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยไขมันที่ดี ไม่ว่าจะเป็นไขมันโอเมก้า 3, 6 และ 9 ซึ่งล้วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม อีกทั้งช่วยบำรุงให้หนังศีรษะและเส้นผมชุ่มชื้นมีสุขภาพดี ยิ่งถ้าหากใช้น้ำมันงาดำมานวดศีรษะเป็นประจำด้วยละก็ จะยิ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณศีรษะทำให้เส้นผมได้รับแร่ธาตุและวิตามินมากขึ้น ไม่หลุดร่วงและยังดกดำเงางามขึ้นค่ะ 9.
: เป็นยังไงบ้างคะกับสรรพคุณงาดำ มีหลากหลายจนต้องว้าวจริงๆ เราสามารถนำงาดำมาทำอาหาร ชงดื่ม หรือทำเป็นขนมของว่างได้ แต่ก็ระวังเรื่องของน้ำตาลด้วยนะคะ เพราะในงาดำเองมีพลังงานสูง ยิ่งถ้าใครกินผลไม้เป็นของว่างในมื้อนั้น ร่างกายก็จะได้รับ น้ำตาลในผลไม้แต่ละชนิด อยู่แล้ว มื้อนั้นอาจงดงาดำไปก่อน แล้วค่อยไปกินงาดำในมื้ออื่นๆ แทนค่ะ DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันดูแลสุขภาพได้ดีขึ้นใช่ไหม? ใครทดลองกินหรือใช้ผลิตภัณฑ์จากงาดำแล้วอย่าลืมมารีวิวผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงกับเรานะคะ ♡ อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก:, diyinspirenow ประโยชน์ของงาดำ สรรพคุณงาดำ สุขภาพกาย หาข้อมูล-ลงมือเขียนและเรียบเรียงโดยทีมกองบรรณาธิการเว็บไซต์ DIY INSPIRE NOW
(2021) มารู้จักงากันอีกสักหน่อย, สืบค้นเมื่อ 10 พฤษภาคม 2564. Medthai. (2021) งาดำ สรรพคุณและประโยชน์ของงาดำ 29 ข้อ, สืบค้นเมื่อ 10 พฤษภาคม 2564.
ประโยชน์ของงาดำ ป้องกันโรคกระดูกพรุน การรับประทานงาดำเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยซ่อมแซมและเสริมสร้างกระดูกและฟัน เนื่องจากในงาดำอุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส ป้องกันการแตกหรือเปราะของกระดูกในวัยสูงอายุและช่วยให้ฟันของเด็กๆแข็งแรง นอกจากนี้ ' งาดำ ' โดยการรับประทานงาดำนี้ยังส่งผลดีต่อส่วนอื่นในร่างกายไม่ว่าจะเป็นเล็บ เส้นผมหรือเซลล์ผิวหนัง อีกทั้งยังสามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องกลัวอ้วนเพราะไม่มีไขมันอีกด้วย 5. ประโยชน์ของงาดำมีฤทธิ์ต้านมะเร็งบางชนิด ' สารเซซามิน ' เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในงาดำ โดยสารชนิดนี้เป็นสารชีวโมเลกุลที่ป้องกันตัวเองของงาดำจากศัตรูพืช จึงถือได้ว่าเป็นสารที่สามารถนำมาช่วยในการยับยั้งหรือต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายได้ ทำให้ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง ป้องกันโรคแทรกซ้อนต่างๆ และยับยั้งการเสื่อมของอวัยวะทั้งภายในและภายนอกร่างกาย 6. ประโยชน์ของงาดำช่วยลดความเครียด สารแอนตี้ออกซิแดนท์และวิตามินต่างๆ ในงาดำ จะช่วยลดความเครียดระดับเซลล์ในเนื้อเยื่อส่วนต่างๆของร่างกายได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ โดยเฉพาะความตึงเครียดในสมอง การดื่มงาดำก่อนนอนจึงเปรียบเสมือนการรับประทานยาลดความเครียดที่ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายนั่นเอง 7.
น้ำมัน เมล็ดงามีปริมาณน้ำมันอยู่ประมาณ 34-64 เปอร์เซ็นต์ โดยองค์ประกอบส่วนใหญ่ในน้ำมันเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fatty acid) ได้แก่ กรดโอเลอิก (Oleic acid) และกรดไลโนเลอิก ( Linoleic acid) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายและดีต่อต่อสุขภาพ ช่วยลดคอเลสเตอรอล ป้องกันเลือดข้น ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด เพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) และช่วยบำรุงผิวให้อ่อนนุ่ม 2. โปรตีน งามีปริมาณโปรตีนอยู่ประมาณ 16-33 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณของกรดอะมิโนอาจแตกต่างกันขึ้นกับสายพันธุ์ ซึ่งโปรตีนในงาช่วยสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอ 3. คาร์โบไฮเดรต ปริมาณคาร์โบไฮเดรตในเมล็ดงามีประมาณ 18-20 เปอร์เซ็นต์ มีกลูโคส และฟรุกโตส อยู่ในปริมาณน้อย 4. แร่ธาตุและวิตามิน เมล็ดงาเป็นแหล่งของธาตุอาหารที่สำคัญคือ แคลเซียม แมกนีเซียม ทองแดง เหล็ก ฟอสฟอรัส สังกะสี แมงกานีส และวิตามินชนิดต่างๆ โดยแร่ธาตุและวิตามินเหล่านี้ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยควบคุมการทำงานของร่างกายให้เป็นปกติ 5.
งาดำเป็นอาหารที่ดีกับสุขภาพก็จริง ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่างาดำเป็นธัญพืชที่มีแคลอรีสูง ซึ่งถ้าหากรับประทานมาก ๆ ก็อาจจะทำให้ได้รับไขมันและแคลอรีมากเกินไปจนเป็นสาเหตุทำให้อ้วน ดังนั้นถ้าจะรับประทานควรรับประทานแต่น้อย โดยปริมาณงาดำที่ควรรับประทานต่อวันคือ 10-15 กรัม หรือไม่เกินวันละ 1 ช้อนโต๊ะ งาดำ กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ดีที่สุด? งาดำมีประโยชน์มากมาย และสามารถนำไปเติมในอาหารหรือเครื่องดื่มใด ๆ ก็ได้ แต่ถ้าอยากให้ร่างกายได้ประโยชน์จากงาดำสูงสุด แนะนำว่าเวลารับประทานควรเคี้ยวงาดำให้แตกก่อนแล้วค่อยกลืน หรือนำมาบดเป็นผงก่อนแล้วจึงนำมาโรยในอาหาร ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารจากงาดำมากขึ้น วิธีซื้องาดำ ควรเลือกอย่างไร?