61 จังหวะผีจับยัดได้เลย มาร์ติเนส ได้ยิงหน้าเขตโทษระยะ 20 หลา เสียบสามเหลี่ยมสวยงาม คือยิงดีเหลือเกิน แต่ ฟานไดจ์ พลาด ยืนนิ่ง ไม่เข้ามาปิดทาง กว่าจะรู้ตัว ก็แหย่เท้าเฉยๆ เรียบร้อย บอลพุ่งเข้าหากรอบสุดคม ใบแดงของซานเชส น.
1890 พอล เฟอร์ดินาน กาเชค นักฟิสิกซ์ชาวฝรั่งเศสผู้ดูแลแวนโก๊ะในช่วงบั้นปลายชีวิต ภาพวาดเสมือนตัวจริงนั้นคือหนึ่งในรูปภาพที่มีสองรูปแบบ นี่คือแบบแรกที่ถูกวาดขึ้น ในวันที่ 15 พฤษภาคม ค. 1990 มันถูกขายในราคา 82. 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นราคาที่แพงที่สุดในบรรดารูปภาพที่ขายไป จนถึงวันนี้ภาพนี้ยังคงมีราคาที่สูงที่สุดในงานประมูลสาธารณะ และราคาแพงสุดที่เคยขายภาพวาดนี้ จัดอยู่ในอันดับที่ 6 ของภาพวาดทั้งหมดในปัจจุบัน 3. Irises ปี ค. 1889 ผลงานที่โด่งดังที่สุดของแวนโก๊ะ คือภาพวาดของ Irises เขาวาดภาพในปีก่อนที่เขาจะเสียชีวิตและเรียกมันว่า "แสงที่ส่องมาสำหรับความเจ็บป่วยของฉัน" ในขณะที่เขารู้สึกว่างานของเขามีส่วนทำให้ความหวังกลายเป็นสิ่งวิกลจริต ในเดือนกันยายนปี ค. ศ 1987 ผลงานชิ้น Irises ขายได้ 53. 9 ล้านเหรียญ และได้รับการบันทึกสถิติในทุกๆ สองปีครึ่ง ณ วันนี้จัดเป็นอันดับที่ 15 ของภาพวาดที่แพงที่สุด 2. Sunflowers ปี ค. 1888 นี่คือภาพเขียนที่มีชื่อเสียงที่สุดในชีวิตของแวนโก๊ะที่เคยสร้างมา ภาพวาดเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะภาพที่มีความงามตามธรรมชาติของดอกไม้และสีสันสดใสของพวกมัน ในภาพวาดประกอบด้วยแจกันกับดอกทานตะวันสิบห้าดอก ถูกลงในบันทึกการประมูลสำหรับภาพวาดเพื่อขายให้กับนักลงทุนชาวญี่ปุ่นเป็นเงินเกือบ 40 ล้านเหรียญในเดือนมีนาคม ปี ค.
2429 หลังจากที่แวนโก๊ะเดินทางมาที่ปารีส ทำให้ได้พบกับผลงาน ที่เรียกว่าอิมเพรสชั่นนิสต์ (Impressionism) รวมทั้งผลงานของ Corot และ Daumier ที่หอศิลปกูปีล โดยในขณะนั้นธีโอ (Theo) น้องชายของเขา ได้ทำงานอยู่ที่นั่นด้วย ซึ่งน้อยชายผู้นี้เอง ที่เป็นผู้ส่งเสียแวนโก๊ะโดยตลอด ระหว่างที่อยู่ปารีส ทำให้แวนโก๊ะ มีโอกาสได้พบกับศิลปินแนวอิมเพรสชั่นนิสต์ ทั้ง Degas, Pissarro, Seurat, Gauguin นอกจากนี้ปีแอร์ แตงกี (Pere Tanguy) เจ้าของร้านขายภาพ ยังให้โอกาสเขา นำภาพเขียนมาแลกกับสี และผ้าใบ โดยผลงานของเขาได้แก่ ภาพดอกไม้ ภาพหุ่นนิ่ง และทิวทัศน์ จนกระทั่งในปี พ. 2430 ผลงานของเขา มีโอกาสได้ออกแสดงในสำนักพิมพ์ "La Revue Independante", ร้านอาหาร "La Fourche" และที่ห้องโถงโรงละคร "Theatre Libre" เมื่ออยู่ปารีสได้ซักพักหนึ่ง เขาจึงย้ายไปอยู่ที่เมืองอาร์เล (Arles) ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ณ ที่แห่งนี้ แวนโก๊ะทุ่มเทให้กับการวาดภาพอย่างหนัก โดยเริ่มจากการใช้เส้นง่ายๆ ที่มีพลังในการวาด และใช้สีที่แสดงความรู้สึกอย่างมีความหมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นภาพเกี่ยวกับธรรมชาติ ต่อมาในปี พ. 2431เขาได้ชักชวนปอล โกแกง (Paul Gauguin) ศิลปินร่วมสมัยมาอยู่ด้วยกันที่บ้าน The Yellow House เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กัน แต่เพียงไม่นาน ก็มีเรื่องต้องขัดเคืองกัน ถึงขนาดแวนโก๊ะ พยายามเอามีดโกนไล่กรีดโกแกง จากนั้นก็คลุ้มคลั่ง และใช้มีดโกนเชือดใบหูตนเองไปข้างหนึ่ง แล้วส่งเป็นของขวัญ ไปให้หญิงสาวที่ตนหลงใหล จากนั้นแวนโก๊ะเริ่มมีสภาพจิตใจแย่ลง จนต้องไปรักษาอาการ ที่โรงพยาบาลแซนต์-เรมี (Saint – Remy) อย่างไรก็ตาม เขายังคงสามารถวาดรูปได้อยู่ อย่างเช่นภาพ "Country Road by Night" ซึ่งเขียนขึ้นในเดือนมกราคม พ.