การตั้งราคาตามหลักจิตวิทยา ( Psychological Pricing): เป็นการตั้งราคาโดยอาศัยความรู้สึกของผู้ซื้อที่มีต่อราคา ซึ่งวิธีการตั้งราคาตามหลักจิตวิทยา เช่น การตั้งราคาแบบเลขคู่ เป็นการกำหนดให้ราคาลงท้ายด้วยเลขคู่หรือจำนวนเต็ม ซึ่งให้ความรู้สินค้ามีคุณภาพดี มีชื่อเสียง เช่น 100 บาท 1, 500 บาท 2, 000 บาท เป็นต้น กลยุทธ์นี้เหมาะกับสินค้าที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ หรือสินค้าราคาแพง สินค้าเกรดพรีเมียม 3. การตั้งราคาตามแนวภูมิศาสตร์ ( Geographical Pricing): เป็นการกำหนดราคาโดยการพิจารณาถึงต้นทุนด้านการขนส่งไปยังตลาดตามภูมิภาคต่างๆ การกำหนดราคาจัดจำหน่ายจึงต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ประกอบด้วย เช่น ระยะทาง ที่ตั้งขององค์กร (หรือโรงงาน) สถานที่จัดจำหน่าย ค่าขนส่ง วิธีการขนส่ง แหล่งวัตถุดิบ และสภาวะการแข่งขันในตลาด การตั้งราคาตามแนวภูมิศาสตร์ ได้แก่ การตั้งราคาตามเขต การตั้งราคาส่งมอบราคาเดียว หรือการตั้งราคาแบบผู้ขายรับภาระค่าขนส่ง เป็นต้น 4. การตั้งราคาสูงและการตั้งราคาต่ำ ( Skimming and Penetration Pricing): - การตั้งราคาสูง ( Skimming Pricing) เป็นการตั้งราคาสินค้าสูงในช่วงแรกของการนำสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาด เพื่อต้องการให้ได้ต้นทุนและกำไรกลับมาโดยเร็ว - การตั้งราคาต่ำ ( Penetration เป็นการตั้งราคาให้ต่ำในช่วงแรกของการนำสินค้าเข้าสู่ตลาด เพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคยอมรับมาทดลองซื้อไปใช้ 5.
หากไม่ระวังสินค้าจะดูด้อยคุณค่าลง เมื่อตั้งราคาสินค้าแล้วเราตั้งแพงเกินไป จากนั้นปรากฏว่าเราขายสินค้าไม่ค่อยออก ยอดขายแย่กว่าคู่แข่ง ถึงตอนนั้นเราจะมาลองลดราคาก็อาจจะทำให้สินค้าของเราดูด้อยคุณค่าลงได้ โดยเฉพาะกับแม่ค้าพ่อค้าที่พยายามจะสร้างแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ความพรีเมียม การลดราคาเพื่อหวังจะทำกำไรนั้นจะทำพร่ำเพรื่อไม่ได้ เพราะอาจจะทำให้ลูกค้าเกิดการคลางแคลงใจในคุณภาพของสินค้าของเรา 2. ไม่มีลูกค้าเก่าที่อยากจะจ่ายแพงกว่าเก่า การเปลี่ยนราคาสินค้าในแบบที่มีนัยยะสำคัญ หรือแบบที่เห็นถึงความแตกต่างได้ชัดเจน อาจจะทำให้ลูกค้ารู้สึกอิดออด ใครจะอยากจ่ายแพงกว่า เมื่อเราเคยซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่าราคาใหม่ ลูกค้าบางคนอาจจะถึงขั้นไม่อุดหนุนร้านของคุณอีกต่อไป หันไปอุดหนุนร้านที่ขายถูกกว่า (ในกรณีที่มีตัวเลือกในตลาดอีกมากมายหลายเจ้า) 3. ราคามีผลทำให้กลุ่มลูกค้าใหม่ของเราเปลี่ยนไป เพราะบางครั้ง "ราคาสินค้าก็จะช่วยคัดกลุ่มลูกค้า" เรทราคาที่แตกต่างกันอาจจะทำให้กลุ่มลูกค้าของคุณเปลี่ยนไปได้ เพราะลูกค้าแต่ละคนมีประสบการณ์การซื้อของที่แตกต่างกัน รวมทั้งมีศักยภาพในการจ่ายที่แตกต่างกัน เราต้องคิดในมุมมองของลูกค้าด้วยการที่เราจะตั้งราคา ว่าเราอยากจะดึงดูดลูกค้ากลุ่มไหนกันแน่ ลูกค้าของเราอาจเคยมีประสบการณ์การซื้อสินค้าประเภทด้วยกันนี้อย่างไร และมีกำลังซื้อมากแค่ไหน ข้อควรระวังในการตั้งราคาสำหรับมือใหม่ ต่อไปมาถึงข้อควรระวังในการตั้งราคาสินค้าสำหรับพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่ 1.
วันนี้ เวลา 01:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ กลยุทธ์แก้ "เงินบาทอ่อนค่า" ในสถานการณ์โควิด-19 จากข้อมูลที่รายงานเรื่อง อัตราแลกเปลี่ยนของ 5 ประเทศในอาเซียน ประกอบด้วย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และประเทศไทย พบว่าเงินบาทอ่อนค่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐถึงร้อยละ 8. 5 กลยุทธ์แก้ "เงินบาทอ่อนค่า" ในสถานการณ์โควิด-19 วารสาร The Economist ณ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 นำเสนอข้อมูลเปรียบเทียบกับข้อมูล ณ วันที่เดียวกันของปีที่แล้ว พบว่าเงินบาทของประเทศไทยอ่อนค่าสูง รองลงมาคือประเทศฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซียและประเทศสิงคโปร์ร้อยละ 6. 4, 3. 1, 2. 5, และ 0. 8 ตามลำดับ สาเหตุที่ค่าเงินบาทเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงมีสาเหตุสำคัญจากรายได้จากการท่องเที่ยวลดลงมาก และประเทศไทยขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นในปี 2564 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ปัญหาค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงอย่างมาก จะกระทบต่อฐานะดุลการชำระเงินและการนำเข้าสินค้าที่มีราคาแพงขึ้น และกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อของประเทศ ดังนั้นจึงเกิดคำถามว่าไทยจะสามารถแก้ไขปัญหาปัญหานี้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไรเพื่อหยุดยั้งปัญหาค่าเงินบาทที่อ่อนตัว กลยุทธ์ในการแก้ไขปัญหานี้ที่ทำน้อยได้มาก และเหมาะสมกับประเทศไทยในสถานการณ์โควิด 19 มีดังนี้ 1.
ควรทำนโยบายควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม เพื่อลดปัญหาปรากฏการณ์ก๊าซเรือนกระจก (Green House Effect) เช่น ในภาคพลังงาน รัฐมีเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค. ศ. 2065 ด้วยการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100% แทนการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งส่วนใหญ่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ขณะที่การผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนบางชนิด เช่น จากชีวมวลที่ไทยมีศักยภาพด้านเชื้อเพลิงจำนวนมาก และเป็นวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ซึ่งสามารถช่วยแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2. 5 จากวิธีการลดการเผาในที่โล่ง และใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเก็บวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรโดยใช้กลไกความร่วมมือแบบไตรภาคีระหว่างภาครัฐ เอกชนและชุมชน ในกรณีที่จำเป็น รัฐสามารถทำได้ด้วยการให้ส่วนเพิ่มพิเศษ (Premium) ในค่าไฟฟ้าประเภท Feed in Tariff เพื่อจูงใจให้เกษตรกรนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร มาเผาในเตาของโรงไฟฟ้าแทนการเผาในที่โล่ง เพราะจะช่วยแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2. 5 ที่ซ้ำซากทุกปี สร้างการจ้างงาน สร้างทัศนคติที่ดีให้แก่ชาวไร่และชาวนาไทยในการรักษาสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญคือยังสามารถเพิ่มรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำให้แก่เกษตรกรได้อีกทางหนึ่งด้วย 4.
👉 คงเป็นการบ้านที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมข้อมูลให้พร้อมก่อนการตั้งราคา หรืออาจจะลองทำการสำรวจดูว่าราคาที่กำหนดผู้บริโภคยอมรับได้หรือไม่ อย่าลืมเอาเทคนิคดีๆแบบนี้ไปปรับใช้นะคะ
กลยุทธ์การตั้งราคาขายแบบมัดรวมสินค้า (Bundle Pricing) เป็นกลยุทธ์การนำสินค้าหลายๆ ชนิดมาขายรวมกันเป็น Bundle หรือเป็นเซ็ตแล้วตั้งราคาขายให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่า โดยกำไรจากการขายจะถูกถัวเฉลี่ยกันไปในสินค้าที่นำมามัดรวมกัน กลยุทธ์ในการเลือกสินค้ามีหลากหลาย โดยอาจนำสินค้าที่หมุนเวียนช้ามัดรวมขายกับสินค้าที่หมุนเวียนเร็วเพื่อให้เกิดรายได้จากการขายสินค้าหมุนเวียนช้าที่มากขึ้นด้วย หรือมัดรวมสินค้าที่มีมาร์จิ้นเยอะกับสินค้าที่มีมาร์จิ้นน้อยเพื่อถัวเฉลี่ยกำไรจากการขายสินค้า 9. กลยุทธ์การตั้งราคาขายเพื่อขายสินค้าอื่นเข้าไป (Optional Pricing) เป็นการตั้งกลยุทธ์ราคาขายเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้าอื่นหรืออปุกรณ์เสริมอื่นๆ เข้าไปด้วย อย่างที่จะเห็นได้บ่อยๆ จากการตั้งราคารถที่รถคันเดียวกันจะแบ่งเป็นหลายราคาตาม Option ที่ให้เพิ่มเข้ามา 10.
การตั้งราคา นับเป็นสิ่งท้าทายความสามารถของผู้ประกอบการต่อการกำหนดระดับราคาของสินค้าก่อนวางจำหน่ายให้มีความเหมาะสมต่อปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ และสอดคล้องกับกลยุทธ์ทางการตลาดด้านอื่น ๆ โดยทั่วไปมีหลักการเบื้องต้นในการตั้งราคามีดังนี้ 1. ตั้งตามต้นทุน โดยคิดต้นทุนบวกกำไร ราคาขายต่อหน่วย = ต้นทุนต่อหน่วย + กำไรที่ต้องการ 2. ตั้งตามลูกค้า โดยยึดความต้องการของตลาดเป็นเกณฑ์ ซึ่งในแต่ละตลาดจะแตกต่างกันตามลักษณะตลาด เช่น การตั้งราคาในตลาดผูกขาด หรือการตั้งราคาในตลาดผู้น้อยราย หรือการตั้งราคาในตลาดที่มีการแข่งขันอย่างสมบูรณ์ 3. ตั้งตามคู่แข่งการตั้งราคาโดยมุ่งพิจารณาที่การแข่งขัน เป็นวิธีการที่นักการตลาดเห็นความสำคัญของคู่แข่งขันมากกว่าความสำคัญของความต้องการของตลาดและต้นทุน ลักษณะราคาเช่นนี้อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเพื่อเอาชนะคู่แข่งขัน ระดับราคา ไม่จำเป็นต้องเท่าเทียมกับคู่แข่งขัน อาจสูงกว่าหรือต่ำกว่าก็ได้ กลยุทธ์การตั้งราคา หมายถึง วิธีการต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับการตั้งราคาสินค้าตามนโยบายราคาที่ได้กำหนดไว้ เพื่อให้ผู้ซื้อยอมรับราคาที่ตั้งขึ้นมา ซึ่งกลยุทธ์การตั้งราคา มีดังนี้ 1. การตั้งราคาตามแนวภูมิศาสตร์ (Geographical Pricing) เป็นการกำหนดราคาโดยการพิจารณาถึงต้นทุนด้านการขนส่ง ไปยังตลาดตามภูมิภาคต่าง ๆ การกำหนดราคาจัดจำหน่ายจึงต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ ประกอบด้วย เช่น ระยะทาง ที่ตั้งขององค์กร (หรือโรงงาน) สถานที่จัดจำหน่าย ค่าขนส่ง วิธีการขนส่ง แหล่งวัตถุดิบ และสภาวะการแข่งขันในตลาด การตั้งราคาตามแนวภูมิศาสตร์ ได้แก่ การตั้งราคาตามเขต หรือ การตั้งราคาส่งมอบราคาเดียว หรือการตั้งราคาแบบผู้ขายรับภาระค่าขนส่ง เป็นต้น 2.