เปิด ธุรกิจ ส่วนตัว

3, 077 เชื่อว่าการมีธุรกิจส่วนตัว คงเป็นความฝันของหลายๆคน เพราะใครๆก็อยากที่จะเป็น เจ้านายตัวเอง กันทั้งนั้น จึงทำให้ทุกวันนี้ ไม่ว่าคุณจะออกไปไหน ก็มักจะเห็นว่า มีกิจการและร้านค้าผุดขึ้นมาเต็มไปหมด แต่จะมีสักกี่ร้านที่สามารถอยู่ได้ตลอดรอดฝั่ง…เพราะปัจจุบัน บางธุรกิจมีการแข่งขันที่ดุเดือดมาก และต้นทุนบางอย่างก็มีราคาสูงขึ้นทุกวันๆ ดังนั้นการวางแผนธุรกิจจึงเป็นสิ่งจำเป็น วันนี้พี่โอกาสเลยจะมาแนะนำ วิธีการคิดต้นทุน และ การตั้งราคา สำหรับการเปิดร้านกันครับ ใครที่อยากมีร้านเป็นของตัวเอง ห้ามพลาด! บางร้านขายดี คนเข้าเยอะ แต่ทำไมถึงเจ๊ง สาเหตุที่ผู้ประกอบการหลายคนขาดทุน นั่นก็เพราะส่วนใหญ่ใช้ "ความรู้สึก" ในการตั้งราคา และการคิดต้นทุน ซึ่งจริงๆแล้ว เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำมากๆครับ บางคนอาจคิดว่าขายดี แต่พอมาดูปลายเดือน กลายเป็นว่าขาดทุนหนักมาก นั่นก็เพราะตั้งราคาต่ำเกิน และไม่เคยคำนวณต้นทุนเลย ต้นทุนเปิดร้านมีต้นทุนอะไรบ้าง? ถ้าไม่อยากขาดทุน ต้องแจกแจงต้นทุนให้ดี โดยต้นทุนในการทำธุรกิจนั้นมี 2 ประเภท ได้แก่: 1. ต้นทุนผันแปร ต้นทุนผันแปร คือต้นทุนที่จะ เพิ่มหรือลดไปตามจำนวนขาย ยิ่งขายจำนวนมาก ต้นทุนผันแปรก็จะยิ่งมาก เช่น ต้นทุนอาหารต่อจาน หรือต้นทุนกาแฟต่อแก้ว ซึ่งต้นทุนผันแปร มักจะเป็นค่าวัตถุดิบ ค่าภาชนะ หรือค่าใช้จ่ายของสิ่งที่เป็นองค์ประกอบในสินค้า 2.

  1. การเปิดธุรกิจส่วนตัวยากมากไหม เรามีคำตอบ | MoneyDuck Thailand
  2. ธุรกิจส่วนตัว | ธุรกิจขายน้ำหอมซีซี ธุรกิจส่วนตัว สำหรับเปิดร้านน้ำหอม ขายหัวน้ำหอม

การเปิดธุรกิจส่วนตัวยากมากไหม เรามีคำตอบ | MoneyDuck Thailand

แท ยอน ผม สั้น

บทความ "ภาษีธุรกิจ101" วันนี้ เริ่มต้นมาจากการที่ผมได้รับข้อความส่งมาปรึกษาเรื่องภาษีหลังไมค์ที่เพจ @TAXBugnoms เป็นการสอบถามสั้นๆว่า ถ้าเป็นมนุษย์เงินเดือน ขายของออนไลน์ในชื่อตัวเองโดยที่ไม่ได้จดบริษัท จะต้องเสียภาษียังไงและแบบไหนบ้าง และที่ผ่านมาเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากการทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่แล้ว แต่รายได้จากการขายของไม่เคยยื่นภาษีเลยครับ!! (ผ่างงงง) จะทำอย่างไรและมีโอกาสถูกตรวจสอบภาษีย้อนหลังหรือไม่ สำหรับคำถามนี้ ผมขออธิบายแบบนี้นะครับ เนื่องจากยังมีคนจำนวนมากเข้าใจผิดเรื่องการขายของออนไลน์อยู่่มากๆ ว่าไม่ต้องเสียภาษี แต่บอกเลยชัดๆตรงนี้ครับว่า "การเปิดร้านค้าออนไลน์" หรือแม้แต่เราจะมีรายได้เสริมอะไรก็ตามนั้น เรามีหน้าที่ต้อง "เสียภาษี" อย่างแน่นอนครับ โดยภาษีที่เราต้องนั้นมี 2 ประเภท ดังนี้ 1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยวิธีการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้นจะมาจากการคำนวณ "เงินได้สุทธิ" แล้วคูณด้วยอัตราภาษี ภาษี (วิธีที่ 1) = เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี เงินได้สุทธิ = เงินได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน 2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม ในกรณีที่เรามีรายได้มากกว่า 1.

  1. โปรแกรม ลง dvd zone
  2. คน อ ซุป ก้อน
  3. อยากเปิดร้าน ธุรกิจส่วนตัว : คิดต้นทุนอย่างไร ตั้งราคาแบบไหน "ไม่ให้เจ๊ง"? | FINSTREET
  4. ธุรกิจส่วนตัว | ธุรกิจขายน้ำหอมซีซี ธุรกิจส่วนตัว สำหรับเปิดร้านน้ำหอม ขายหัวน้ำหอม
  5. ดวง เดือน กุมภาพันธ์ 2562 หมอ ช้าง
  6. Allergan Botox 50 Units ราคา | Botox Allergan ของแท้ มีจุดสังเกตตรงไหน อย่างไรบ้าง ?
  7. Harlemshake dance studio ราคา iphone

ต้นทุนคงที่ ต้นทุนคงที่ คือต้นทุนที่จะ ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว ไม่ว่าคุณจะขายสินค้านั้นได้หรือไม่ เช่น ค่าเช่า ค่าจ้าง ค่าน้ำค่าไฟ หรือค่าเสื่อม ซึ่งหลายคนมักจะตั้งราคาโดยไม่คำนึงถึงต้นทุนส่วนนี้ เลยทำให้นึกว่าขายดี แต่สุดท้ายขาดทุนโดยไม่รู้ตัว 3. ค่าเสื่อม ค่าเสื่อม เป็นต้นทุนคงที่ที่คำนวณจากเงินลงทุนเริ่มต้น โดยจะตัดออกจากมูลค่าสินทรัพย์เรื่อยๆ เช่น ถ้าซื้อเครื่องชงกาแฟมา 36, 000 บาท โดยคิดคร่าวๆว่าจะมีอายุการใช้งาน 5 ปี จะต้องตัดค่าเสื่อมปีละ 7, 200 บาท หรือเดือนละ 600 บาท เป็นต้นทุนคงที่เผื่อไว้ด้วย สาเหตุที่เราต้องคิดค่าเสื่อมด้วย นั่นก็เพราะว่า การหักค่าเสื่อมจะทำให้คุณเห็น "กำไรตามความเป็นจริง" และทำให้มีเงินสำรองเก็บไว้ซื้อสิ่งนั้นใหม่ เมื่อครบอายุการใช้งาน ตั้งราคาขายอย่างไร ขายเท่าไหร่ถึงจะคุ้ม?

ธุรกิจส่วนตัว | ธุรกิจขายน้ำหอมซีซี ธุรกิจส่วนตัว สำหรับเปิดร้านน้ำหอม ขายหัวน้ำหอม

8 ล้านบาทต่อปี" หรือยัง?? กรณีที่รายได้จากการขายของออนไลน์ไม่ถึง 1. 8 ล้านบาทต่อปี สบายใจได้ว่าเราจะเสียแค่ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอย่างเดียวครับ แต่ในกรณีที่รายได้จากการขายของออนไลน์มากกว่า 1.

เริ่มต้นจาการหาไอเดียในการสร้าง Product 2. ถ้าเราต้องการที่จะขายผลิตภัณฑ์(Product)สักอย่าง เราก็ต้องรู้ว่าผลิตภัณฑ์ของเราคืออะไร มีการบริการอย่างไรต่อลูกค้า อาจจะนำไอเดียจากสิ่งที่เรามีความรู้มาก่อนหรือว่าลองเป็นผลิตภัณฑ์ที่เราอยากทำมาตลอดก็ได้ หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์ที่อาจจะยังไม่เคยมีใครที่ทำมาก่อนก็ได้ สิ่งต่อมาที่เราควรคิดก็คือชื่อของบริษัท หรือชื่อของผลิตภัณฑ์ ซึ่งชื่ออาจจะเป็นชื่อที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะยิ่งธุรกิจเติบโตมากขึ้นเท่าไหร่ ชื่อบริษัทก็สามารถเปลี่ยนให้มีความชัดเจนและสื่อถึงผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้นได้ สิ่งที่เราควรคิดถึงเวลาตั้งชื่อบริษัท ควรเป็นชื่อที่จำง่าย และ เข้าใจง่าย ถ้ายาวเกินไปก็คงไม่มีคนอยากจะจำมันหรอก จริงไหม 3.

เปิดธุรกิจส่วนตัว