เริ่มจากการนำปลาดอลลี่ที่เราแล่เป็นชิ้นๆ มาชุปลงในแป้งข้าวโพดก่อนนะครับ(แป้งข้าวโพดไม่ต้องผสมน้ำเลยนะครับ) หลังจากที่เราชุปแป้งข้าวโพดเสร็จเรียบร้อย ก็นำลงไปทอดในกระทะที่ตั้งไฟไว้แล้วในระดับปานกลาง ซึ่งน้ำมันที่ใช้จะเยอะหน่อยนะครับ(เทคนิคเดียวกับที่เราทำ "ยำปลาดอลลี่" เลยแหละครับ มนูสำหรับวันพ่อ-creamcuisine/) หลังจากที่ใช้เวลาทอดประมาณ 2-3 นาทีแล้ว ปลาดอลลี่จะมีสีเหลืองทอง เราก็นำขึ้นมาจากกระทะได้เลยครับ 2. หลังจากที่เรานำปลาดอลลี่ขึ้นมาจากกระทะแล้ว ก็ให้พักไว้จนเสด็จน้ำมัน ในระหว่างนี้เราเตรียมกระเทียม ขิงซอย ผักชีล้อม ต้นหอม พริกเหลืองมารวมไว้ด้วยกันในถ้วย และนำปลาดอลลี่ที่พักไว้จนเสด็จน้ำมันมารวมไว้ในถ้วยด้วยเหมือนกันเพื่อนำลงไปผัดในกระทะ ซึ่งการปรุงรสถ้าจะให้ดีก็ต้องปรุงในขั้นตอนนี้ครับ เพื่อลดเวลาการผัดในกระทะให้สั้นลง ไม่ทำให้ปลาดอลลี่ที่เราทอดไว้มีความกรอบที่ลดลง เดี๋ยวอรรถรสที่ได้รับจากการทานก็จะลดลงตามไปด้วย ซึ่งการปรุสรสเราจะใช้ เต้าเจียว ซีอิ้วขาว และน้ำตาลอย่างละนิดนะครับ 3.
ไข่เป็ด 20 ฟอง 2. น้ำตาลโตนด 750 กรัม 3. น้ำตาลทรายขาว 250 กรัม 4. แป้งข้าวเจ้า 50 กรัม 5. เผือกนึ่งสุก 550 กรัม 6. น้ำหัวกะทิ 1, 500 กรัม 7. น้ำหางกะทิ 1, 000 กรัม 8. เนื้อลำไย 500 กรัม 9. ใบเตย 5 ใบ 1. ตอกไข่เป็ดใส่หม้อ ใส่น้ำตาลโตนด น้ำตาลทรายขาว แป้งข้าวเจ้า แล้วใช้ใบเตยขยำจนเครื่องปรุงทั้งหมดเป็นน้ำเดียวกัน จึงกรองด้วยผ้าขาวบาง 2. เอาเผือกนึ่งสุกและน้ำหัวกะทิไปบดรวมกันจนละเอียด แล้วเทน้ำหางกะทิใส่ลงไปกวนให้เข้ากัน 3. บดเนื้อลำไยสดให้ละเอียดบีบน้ำออกให้แห้งหมาด ๆ แล้วนำไปผสมกับน้ำตาล ไข่และเผือก น้ำกะทิ กวนให้เป็นเนื้อเดียวกัน 4. ตักใส่ถ้วยหรือแม่พิมพ์แล้วนำไปอบในเตาด้วยความร้อน 180 องศา จะได้ขนมหม้อแกงลำไย สดรสอร่อย ซึ่งมีขายที่ ร้านเพชรปิ่นแก้ว ภายในกาดฝรั่ง (หมู่บ้านที่มีฝรั่งอยู่กันมากที่ อ. หางดง)คุณตุ๊กทำข้าวหมกไก่ แกงกะหรี่เยาวราช บ๊ะกุ๊ดเต๋ปีนัง ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น และก๋วยเตี๋ยวปลา ที่ผมสอนให้ ขายคู่ขนมหวานด้วย แล้วยังมีถุงมือสมุนไพร (ในรูป) ที่คุณตุ๊กทำส่งขายเมืองนอก และมอบให้ผมไปอบมือแก้นิ้วล็อคด้วย ร้านเพชรปิ่นแก้ว โทร. 08-6318-8633
แบคโฮ แมคโคร แมคโฮ หรือว่า แบคโคร เรียกเจ้ารถขุดดินนี่ว่าอะไรกันคะ? ที่เจอเยอะๆคือ "แบคโฮ" กับ "แมคโคร" ค่ะ แต่ก็มีบ้างที่เรียกกันว่า แมคโฮ กับ แบคโคร แล้วเราควรเรียกมันว่าอะไรกันแน่?
น้ำมันพืชที่ใช้เช็ดเบ้าขนมครก ควรเป็นน้ำมันมะพร้าว จะทำให้ขนมครกมีกลิ่นหอม ชวนให้น่ารับประทาน นอกจากนั้น ยังทำให้ผิวขนมครกมีสีสวย 2. ภาชนะใส่ขนมครก ไม่ควรใช้โฟม เนื่องจากมีสารเมลามีน ก่อให้เกิดมะเร็ง ควรเป็นจานกระดาษ หรือรองด้วยใบตอง หรือหากจำเป็นต้องเรียงซ้อนกัน ก็ควรมีใบตองวางทับไว้ด้วย เพื่อไม่ให้ขนมครกติดกัน 3.
หน้าแรก ชีพจรลงพุงไกด์ ขนมไทย คาเฟ่ 4 มี. ค.
เตาไฟ 2 หัว เป็นเตาเหล็ก 1, 500 บาท 2. เบ้าขนมครก 1 ใบ ราคา 600 บาท 3. กาหยอดขนมครก 60-100 บาท 4. เตาแก๊ส 300 บาท 5. ค่าวัตถุดิบ อาทิ แป้ง กะทิ น้ำตาลโตนด เกลือ จานกระดาษไว้ใส่ขนม ทั้งสิ้น 300 บาท ลงทุนครั้งหนึ่ง ประมาณ 300 บาท ซื้อแป้งสำเร็จรูป 1 กิโลกรัม มาผสมกับ น้ำกะทิ น้ำสะอาด น้ำปูนใส น้ำตาลโตนด เกลือ จะได้แป้งสำหรับหยอดขนมครก 3 กิโลกรัม แป้งจำนวนนี้สามารถหยอดขนมครก ขนาด 15 เบ้า ได้ 24 กระทะ หากแคะไม่เสีย จะได้ขนมครก ทั้งหมด 360 ชิ้น จำหน่ายชิ้นละ 2 บาท รวมแล้วเป็นเงิน 720 บาท หลังหักค่าใช้จ่าย ได้กำไรเกินครึ่ง" ร้านจำหน่ายวัตถุดิบทำขนมครก 1. ตลาดสดใกล้บ้าน/ห้างสรรพสินค้า 2. ร้านแสงอรุณ ตั้งอยู่บริเวณหน้าตลาดจังหวัดนนทบุรี จำหน่ายวัตถุดิบทำขนมไทยทุกประเภท ภาชนะบรรจุ และอุปกรณ์จำเป็นทั้งหมดสำหรับทำขนม โทรศัพท์ (02) 525-0504 3. ร้านตั้งจิบเซ้ง ที่อยู่ แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ โทรศัพท์ (02) 222-1721, (02) 221-3809, (02) 221-2280, (02) 221-1693 ร้านขายกล่องบรรจุและเบ้าขนมครก 1. ร้านตั้งจิบเซ้ง ที่อยู่ แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ โทรศัพท์ (02) 222-1721 2. ร้านขจรศักดิ์ เครื่องครัว ที่อยู่ แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ โทรศัพท์ (02) 221-0572 โทรสาร (02) 221-7796 3.
เพื่อร่วมให้คะแนนรีวิว และแสดงความคิดเห็น พร้อมรับ ข่าวสารและร่วมกิจกรรมจาก G&C Club ก่อนใคร Home / GC Club / 5 วุ้นหลากสไตล์ กินคลายร้อน ทำง่ายที่บ้าน วันที่ 30 มกราคม 2563 927 Views คุณได้สมัครรับข่าวสารเรียบร้อยแล้ว