ไวรัส อักเสบ เอ / ไวรัสตับอักเสบ เอ (Viral Hepatitis A) - Gloveclinic

วรวุฒิ เจริญศิริ ศูนย์ข้อมูลสุขภาพกรุงเทพ วรัสตับอักเสบเอ-792

ไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis Infecciosa) - เขตสุขภาพทางใต้ของเนวาดา

ระยะฟักตัว 15-50 วัน โดยเฉลี่ยประมาณ 28-30 วัน จากการศึกษาการติดต่อในคน และหลักฐานทางระบาดวิทยาชี้ชัดว่า ระยะเวลาที่จะเกิดการติดเชื้อได้สูงสุดอยู่ในช่วงครึ่งหลังของระยะฟักตัว จนถึงประมาณ 2-3 วัน หลังจากเริ่มมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง หรือในช่วงของจุดสูงสุดของระดับเอนไซม์ตับในเลือดในผู้ป่วยที่ไม่มีอาการตัว เหลืองตาเหลือง ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหมดระยะติดต่อของโรคหลังจากมีอาการตัวเหลืองตาเหลืองไป แล้ว 1 สัปดาห์ อาการ 1. อาการของผู้ป่วยตับอักเสบแตกต่างกันไปในแต่ละคน บางคนจะมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น อ่อนเพลีย ในบางคนจะมีอาการตัวเหลือง ตาขาวเป็นสีเหลืองร่วมด้วย หรือ บางคนจะมีอาการมากกว่านั้น เช่น เป็นไข้ คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน เบื่ออาหาร ปวดท้องที่ตำแหน่งชายโครงด้านขวา ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระสีซีด อาจพบว่ามีอาการคันตามผิวหนัง หรือผื่นลมพิษก็เป็นได้ 2. ภาวะการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ มักปรากฏอาการในเด็กโตและผู้ใหญ่มากกว่าในเด็กเล็ก ผู้ป่วยมักสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสต่อไปในระยะยาว และหายจากโรคอย่างสมบูรณ์โดยไม่เป็นพาหะเรื้อรัง ปัจจุบันมีการให้วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอในเด็กแรกเกิด 3.

ตรวจพบภูมิคุ้มกันชนิด IgM ต่อไวรัสตับอักเสบ เอ (IgM anti HAV) ในน้ำเหลืองที่เก็บทันทีหรือขณะป่วย สามารถตรวจพบได้ใน 5-10 วันหลังติดเชื้อ และพบจนถึง 6 เดือนหลังเริ่มป่วย ร่วมกับการตรวจพบภูมิคุ้มกันที่จำเพาะต่อเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 4 เท่าหรือมากกว่าในน้ำเหลืองที่เจาะ 2 ครั้ง โดยวิธี RIA หรือ ELISA 3. ใช้หลักฐานทางระบาดวิทยาช่วยในการวินิจฉัยโรค 4. สำหรับ IgG anti-HAV ก็จะตรวจพบในช่วงต้นของการติดเชื้อและคงอยู่ตลอดไปซึ่งจะป้องกันโรคได้ตลอดชีวิต การรักษา 1. การรักษาโรคตับอักเสบ ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคนี้โดยเฉพาะ โดยทั่วไปจะเป็นการรักษาตามอาการ สิ่งที่ผู้ป่วยควรทราบ คือ หลีกเลี่ยงยารับประทานที่อาจทำให้ภาวะตับอักเสบ โดยทั่วไปรักษาตามอาการ หลีกเลี่ยงยารับประทานที่อาจนำให้ภาวะตับอักเสบรุนแรงขึ้น นอนพักผ่อนให้มาก เมื่อผู้ป่วยได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ภูมิต้านทานโรคในร่างกายจะเพิ่มขึ้น อาการป่วยไข้ที่เป็นอยู่ก็จะดีขึ้นในไม่ช้า 2.

ไวรัส อักเสบ เอ พศิน

เชิญยิ้ม

เผยแพร่ครั้งแรก 4 พ. ย. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคไวรัสตับอักเสบเอให้หายขาดได้ ดังนั้น วิธีการรักษาเพื่อให้อาการทุเลาลง และลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ดีที่สุดก็คือ การฉีดวัคซีนตับอักเสบเอ โดยองค์การอนามัยโลกจัดให้วัคซีนตับอักเสบเอเป็นวัคซีนที่ปลอดภัย และสามารถป้องกันโรคได้สูงด้วย แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ สั่งยา ปรึกษาข้อมูลเบื้องต้น จากร้านยาใกล้บ้านคุณได้ง่ายๆ เริ่มจากแชทกับเภสัชกรที่มีใบอนุญาตผ่านแอปของเรา ฟรี! บริการทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 3 ทุ่ม กด วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ เป็นเชื้อไวรัสตับอักเสบเอชนิดเชื้อตาย ในปัจจุบันมีอยู่ 2 แบบ คือ วัคซีนฮัฟริกซ์ (HAVRIX) เป็นวัคซีนชนิดแรกที่เข้าสู่ตลาดเมื่อปีพ. ศ. 2538 มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบเอได้ถึง 94% วัคซีนแวคทา (VAQTA) เข้าสู่ตลาดเมื่อปีพ.

พบว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคตับอักเสบชนิดบีหรือซีแบบเรื้อรัง หรือเป็นพาหะของเชื้อชนิดบีหรือซีอยู่นาน 30-40 ปีขึ้นไป อาจมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับได้ การป้องกัน 1. เชื้อไวรัสตับอักเสบเป็นเชื้อที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชีวิตความเป็น อยู่ทั่วไปของมนุษย์ เชื้อสามารถปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้ำและอาหารของมนุษย์ เชื้อสามารถเข้าสู่ร่างกายมนุษย์จากการดำรงชีวิตตามธรรมชาติ จากแม่สู่ทารก จากการใช้เข็มฉีดยาในผู้ติดยาเสพติด การฝังเข็ม หรือแม้แต่ในวงการเสริมความงาม เช่น การสัก การเจาะหู การใช้ของมีคมร่วมกับผู้อื่นที่มีเชื้อในกระแสเลือด เช่น มีดโกน กรรไกรตัดเล็บ รวมถึงการรับเลือดหรือส่วนประกอบของเลือดจากผู้บริจาค 2. แนวทางการป้องกัน ได้แก่ น้ำดื่มควรได้รับการต้มให้เดือดเป็นเวลา 20 นาที ก่อนใช้บริโภคเชื้อไวรัสตับอักเสบทุกชนิดจะตายที่ความร้อน 100 องศาเซลเซียส อาหารควรปรุงให้สุกก่อนรับประทาน โดยเฉพาะอาหารที่มาจากแหล่งน้ำทั้งสัตว์และพืช 3. ผู้ประกอบอาหารต้องรักษาความสะอาดด้วยการล้างมือ หรือสวมถุงมือขณะประกอบอาหารแหล่งผลิตอาหารสดต้องได้รับการควบคุม เช่น การสุ่มตัวอย่างเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ เป็นต้น 4.

วัคซีนตับอักเสบเอ จำเป็นไหม ราคาเท่าไหร่? ฉีดกี่เข็ม? | HD สุขภาพดี เริ่มต้นที่นี่

  1. ไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis Infecciosa) - เขตสุขภาพทางใต้ของเนวาดา
  2. ยาแคปซูล ติดคอ กลืนยาก กินแต่ผงยาข้างในได้หรือไม่? - Hello Khunmor
  3. 10 ไอเท็ม แต่งบ้านรับวันตรุษจีน เสริมความเฮงในชีวิต | SC Asset
  4. โรคไวรัสตับอักเสบ | โรงพยาบาลมหาชัย 2
  5. ไวรัส อักเสบ เอ ไอ
  6. Marantz 7011 ราคา ตารางผ่อน
  7. การฝึกทหารกองเกิน - Pantip
สาเหตุของตับอักเสบที่พบบ่อยที่สุดสำหรับประเทศไทย ได้แก่ ตับอักเสบจากการติดเชื้อไวรัส เชื้อไวรัสตับอักเสบมีหลายชนิด ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบชนิดเอ บี ซี ดี อี และจี แต่ละชนิดจะมีวิธีการติดต่อและแพร่เชื้อที่แตกต่างกัน 2. ไวรัสตับอักเสบเอ และอี สามารถแพร่เชื้อได้ทางอาหาร น้ำดื่ม ผัก ผลไม้ รวมถึงสัตว์น้ำจากแหล่งน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ นอกจากนั้นระบบสุขอนามัยที่ไม่ดี เช่น การขับถ่ายอุจจาระลงแหล่งน้ำ เป็นสาเหตุที่สำคัญมากของการระบาดของเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ และอี ไวรัสตับอักเสบทุกชนิด สามารถแพร่เชื้อผ่านทางเลือดได้ ไวรัสตับอักเสบบี ซี ดี และจี แพร่เชื้อทางเพศสัมพันธุ์ ทางมารดาสู่ทารก ทางการได้รับเลือดและส่วนประกอบของเลือด การใช้ของมีคมร่วมกับผู้ที่ติดเชื้อ การสัก การเจาะหู การฝังเข็ม เป็นต้น 3. ไวรัสตับอักเสบชนิดเอ (HAV) เป็น RNA virus เป็นสมาชิกตระกูล picornaviridae ติดต่อจากคนสู่คนโดยเชื้อเข้าสู่ปาก เชื้อจะอยู่ในอุจจาระของผู้ป่วยซึ่งพบระดับสูงสุดในสัปดาห์แรกหรือสอง สัปดาห์ก่อนเริ่มแสดงอาการ และลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากตับเริ่มแสดงการทำงานลดลงหรือเริ่มแสดงอาการ พร้อมกับพบภูมิคุ้มกันในกระแสโลหิต การระบาดของโรคนี้มักจะเกิดจากแหล่งโรคร่วมโดยสัมพันธ์กับการปนเปื้อนเชื้อ ในน้ำและอาหารที่ปนเปื้อนจากผู้เตรียมอาหารที่เป็นพาหะของโรค รวมทั้งรับประทานอาหารที่ไม่ได้ทำให้สุกหรือมีการจับต้องอาหารภายหลังปรุง สุก รวมทั้งนม สลัด หอยปรุงไม่สุก ที่เก็บจากน้ำบริเวณที่ปนเปื้อนเชื้อ 4.

ให้ความรู้แก่ประชาการในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้อยู่อาศัยใกล้แหล่งน้ำหรือในแหล่งที่ระบบสุขอนามัยไม่ดี ผู้ที่ใช้เข็มฉีดยา หรือมารดาที่ตั้งครรภ์ เป็นต้น เพื่อให้ทราบถึงวิธีการติดเชื้อ 5. สถานพยาบาล หน่วยงาน รวมถึงบ้านอยู่อาศัย ควรมีการควบคุมแหล่งแพร่เชื้อ โดยเฉพาะเลือด น้ำลาย สิ่งขับถ่าย และเครื่องมือเครื่องใช้ของผู้ป่วย สำหรับเข็มฉีดยา เข็มเจาะเลือดโดยต้องทำลายฆ่าเชื้ออย่างถูกวิธี โดยการเผา การนึ่งฆ่าเชื้อด้วยความดัน การอบแห้งที่ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 1 ชั่วโมง หรือการต้มเดือด เป็นเวลา 20 นาที 6. การตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบในเลือดผู้บริจาคทุกยูนิต 7. การให้ภูมิคุ้มกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบหรือการฉีดวัคซีน ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ 2 ชนิด คือ ไวรัสตับอักเสบเอ และไวรัสตับอักเสบบี สามารถให้ได้ในผู้ที่ยังไม่เคยคิดเชื้อมาก่อน โดยก่อนการให้วัคซีนต้องได้รับการตรวจร่างกายโดยแพทย์ และตรวจเลือดเพื่อดูว่าเคยได้รับเชื้อมาก่อนหรือมีภูมิคุ้มกันอยู่แล้วหรือ ไม่ ถ้ายังไม่เคยติดเชื้อหรือยังไม่มีภูมิคุ้มกันจึงจะให้วัคซีน ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอและบีที่ให้ในทารก ตั้งแต่แรกเกิด ที่มา: นพ.

ศุภชัย

ตะกร้าสินค้า

วัคซีนในเด็กมีอะไรบ้าง 2. อาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน 3. วัคซีนเสริม เรียบเรียงโดย: Mamaexpert Editorial Team อ้างอิง สมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย. โอฬาร พรหมาลิขิต และคณะ. "วัคซีน…. น่ารู้". วัคซีนตับอักเสบเอ จำเป็นหรือไม่ ใช้อะไรพิจารณา;หน้า 41-44. กรุงเทพฯ. [ค้นเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2560]

ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 584 บาท ลดสูงสุด 375 บาท จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม! ผลข้างเคียงของวัคซีนตับอักเสบเอ การฉีดวัคซีนตับอักเสบเออาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงบางอย่าง ซึ่งระยะเวลาของอาการจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 วัน ประกอบด้วย ปวดกล้ามเนื้อที่บริเวณที่ฉีดยา ปวดหัว เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ผู้ป่วยบางรายก็อาจมีการแพ้วัคซีนรุนแรงได้ แต่เป็นกรณีที่พบได้น้อย หากใครที่กำลังมองหาวัคซีนที่ป้องกันทั้งไวรัสตับอักเสบเอและไวรัสตับอักเสบบี ยังมีวัคซีนอีกชนิดที่ชื่อว่า ทวินริกซ์ (TWINRIX) ซึ่งเป็นวัคซีนรวมการป้องกันเชื้อไวรัสตับอักเสบเอและไวรัสตับอักเสบบีอยู่ด้วยกัน โดยวัคซีนชนิดนี้เข้าสู่ตลาดเมื่อปีพ.